วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556

ลักษณะพฤกษศาสตร์ของกุหลาบ



ชื่อวิทยาศาสตร์: Rosa spp.
ชื่อวงศ์: Rosaceae
ชื่อสามัญ: Rose
ลักษณะทั่วไป:
     ต้น ไม้พุ่มขนาดเล็ก แต่บางชนิดมีขนาดใหญ่หรือเป็นไม้เลื้อย เป็นไม้ผลัดใบ ลำต้นและกิ่งมีหนาม เปลือกสีเขียว
ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อย 5-9 ใบ ออกลับกัน ใบรูปไข่ กว้าง 1.5-3 ซม. ยาว 5-10 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบจักฟันเลื่อย แผ่นใบสีเขียวเข้มเป็นมันและมีรอยย่นเล็กน้อย
     ดอก เป็นดอกเดี่ยว หรือดอกช่อ กลีบดอกแบ่งเป็น 3 ชนิด คือ กลีบดอกชั้นเดียว จะมี 5 กลีบ ยกเว้นบางชนิดที่มีเพียง 4 กลีบ คือ Rosa sericea และ Rosa omeiensis ส่วนกลีบดอกกึ่งซ้อนมี 6-20 กลีบ กลีบดอกซ้อนมีตั้งแต่ 20 กลีบไปจนถึง 50-60 กลีบ กลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ สีเขียวหรือสีเขียวอมแดงเรื่อ เกสรเพศผู้มีจำนวนมาก อับเรณูสีเหลืองล้อมรอบเกสรเพศเมียซึ่งรวมเป็นกระจุกอยู่กลางดอก และจะอยู่ในระดับต่ำกว่าเกสรเพศผู้
     ฝัก/ผล เป็นผลกลุ่ม ผลแก่แห้ง เมื่อเริ่มติดผลส่วนที่เป็นรังไข่จะขยายพองโตขึ้นโดยมีฐานรองดอกหุ้มไว้ ภายในประกอบด้วยผลย่อยจำนวนสองถึงหลายสิบผล ผลมีรูปร่างต่างๆ กัน ตามชนิด เช่น กลม กลมแป้น ยาวรี มีเนื้อนุ่ม และมีหลายสี เช่น สีส้ม สีแดง สีเหลือง หรือสีน้ำตาล
     เมล็ด เมล็ดล่อน (achene) ค่อนข้างกลม รูปไข่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 2-4 มม. เมล็ดอ่อนสีขาวอมเขียว ที่ปลายมีสีแดง เมล็ดแก่สีน้ำตาล จำนวน 2-18 เมล็ด
ฤดูกาลออกดอก: ตลอดปี โดยเฉพาะ ธ.ค.-มี.ค.
การปลูก: ปลูงลงกระถางหรือลงแปลงประดับสวน
การดูแลรักษา: ชอบดินที่เป็นกรดเล็กน้อย อากาศเย็น
การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ปักชำกิ่ง ติดกิ่ง ติดตา หน่อ
ส่วนที่มีกลิ่นหอม: ดอก
การใช้ประโยชน์:
     - ตัดดอกประดับแจกัน
     - กลีบดอกแรกแย้มสกัดได้น้ำมันหอมระเหยใช้แต่งกลิ่น โดยเฉพาะ เครื่องสำอาง
     - ร้อยมาลัย และบุหงา
ถิ่นกำเนิด: กุหลาบอยู่ในสกุล Rosa มีอยู่ประมาณ 125 ชนิด มีถิ่นกำเนิดในเอเซียประมาณ 95 ชนิด ในอเมริกา 18 ชนิด ส่วนที่เหลือมีถิ่นกำเนิดในยุโรปหรือตะวันตกเฉียงเหนือของแอฟริกา
สรรพคุณทางยา:
     - ดอก มีสรรพคุณบำรุงหัวใจ ขับน้ำดี
     - ผล มีวิตามินซีมาก

ช่อกุหลาบสื่อความหมาย


             จำนวนดอกกุหลาบในช่อก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สื่อความหมายได้เช่นกัน และในวันวาเลนไทน์หรือวันไหนๆ ถ้าคุณได้ช่อดอกกุหลาบจากใครสักคน เค้าคนนั้นอาจกำลังต้องการสื่อความหมายอะไรบางอย่างให้คุณรู้ก็เป็นได้

                        จำนวนดอกกุหลาบ          
1
2
3
7
9
10
11
12
13
15
20
21
36
40
99
100
101
108
999

ความหมาย
รักแรกพบ
แสดงความรู้สึกที่ดีให้กัน
ฉันรักเธอ
คุณทำให้ฉันหลงเสน่ห์
เราสองคนจะรักกันตลอดไป
คุณเป็นคนที่ดีเลิศ
คุณเป็นสมบัติชิ้นที่มีค่าชิ้นเดียวของฉัน
ขอให้เธอเป็นคู่ของฉันเพียงคนเดียว
เพื่อนแท้เสมอ
ฉันรู้สึกเสียใจจริงๆ
ฉันมีความจริงใจต่อเธอ
ชีวิตินี้ฉันมอบเพื่อเธอ
ฉันยังจำความหลังอันแสนหวาน
ความรักของฉันเป็นรักแท้
ฉันรักเธอจนวันตาย
ฉันอุทิศชีวิตนี้เพื่อเธอ
ฉันมีคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น
คุณจะแต่งงานกับฉันไหม
ฉันจะรักคุณจนวินาทีสุดท้าย



กุหลาบขาว กับ กุหลาบแดง สีไหนเกิดก่อน ?

กุกลาบขาว กับ กุหลาบแดง สีไหนเกิดก่อน

                  มีหลายตำนานเล่าถึงการเกิดกุหลาบสีขาวและกุหลาบสีแดงไว้แตกต่างกัน ตำนานหนึ่งเล่าว่า กุหลาบขาว เกิดขึ้นก่อน กุหลาบแดง เดิมทีมีนกไนติงเกลตัวหนึ่งมาหลงรักเจ้าดอกกุหลาบขาวแสนสวย ขณะที่มันกำลังจะโอบกอดดอกกุหลาบด้วยความรักนั้นเอง หนามกุหลาบก็ทิ่มแทงที่หน้าอกของมัน หยดเลือดของเจ้านกไนติงเกลเลยทำให้ดอกกุหลาบสีขาวกลายเป็นสีแดง เลยมีดอกกุหลาบสีแดงนับแต่นั้นเป็นต้นมา ส่วนอีกตำนานหนึ่งก็เล่าว่ากุหลาบสีแดงใน สวนอีเดน เกิดจาการจุมพิตของ อีฟ เจ้าดอกกุหลาบขาวที่หญิงสาวจุมพิต เลยเกิดอาการขวยเขินจึงเปลี่ยนเป็นสีแดง
                  นอกจากนี้ ความหมายของความรักในศาสนาคริสต์ ถือว่ากุหลาบสีขาวแทนความบริสุทธิ์ของ พระแม่มาเรีย และกุหลาบสีแดงเกิดจากหยาดพระโลหิตของ พระเยซูเจ้า เมื่อถูกสวมมงกุฎหนาม มันจึงเป็นสัญลักษณ์ของผู้ประกาศศาสนาที่พลีชีพเพื่อพระผู้เป็นเจ้า
ที่มา:www.panmai.com

ตำนานดอกกุหลาบ

                
              กุหลาบเป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกไว้ชื่นชมมาแต่โบราณ ประมาณกันว่ากุหลาบเกิดขึ้นเมื่อกว่า 70 ล้านปีมาแล้ว เคยมีการค้นพบฟอสซิลของกุหลาบใน รัฐโคโลราโด และ รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้พิสูจน์ว่ากุหลาบป่าเป็นพืชที่มีอายุถึง 40 ล้านปี แต่กุหลาบป่าสมัยโลกล้านปีนี้ มีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนกุหลาบสมัยนี้ เนื่องจากมนุษย์ได้นำเอากุหลาบป่ามาปลูกและผสมพันธุ์ ขยายพันธุ์เป็นพันธุ์ต่างๆ มากมาย

                ความจริงแล้วกำเนิดของกุหลาบหรือกุหลาบป่านี้มีเฉพาะในแถบบริเวณเหนือเส้นศูนย์สูตรของโลกเท่านั้น คือกำเนิดในภาคกลางของทวีปเอเชีย แล้วแพร่ขยายพันธุ์ไปตลอดซีกโลกเหนือ ไม่ว่าจะเป็นแถบที่มีอากาศหนาวจัดอย่าง อาร์กติก อลาสก้า ไซบีเรีย หรือแถบอากาศร้อนอย่าง อินเดีย แอฟริกาเหนือ แต่ในบริเวณแถบใต้เส้นศูนย์สูตรอย่างทวีปออสเตรเลีย หรือเกาะต่างๆ ในมหาสมุทรรวมทั้งแอฟริกาใต้ ไม่เคยมีปรากฏว่ามีกุหลาบป่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเลย

                ตามประวัติศาสตร์เล่าว่า กุหลาบป่าถูกนำมาปลูกไว้ในพระราชวังของจักรพรรดิจีน ในสมัยราชวงศ์ฮั่นราว 5,000 ปีมาแล้ว ขณะที่อียิปต์เองก็ปลูกกุหลาบเป็นไม้ดอก ส่งไปขายให้แก่ชาวโรมัน ชาวโรมันเป็นชาติที่รักดอกกุหลาบมากถึงจะสั่งซื้อจากประเทศอียิปต์แล้ว ยังลงทุนสร้างเนอร์สเซอรี่ขนาดใหญ่สำหรับปลูกดอกกุหลาบอีกด้วย สำหรับชาวโรมันแล้วเรียกได้ว่าดอกกุหลาบมีความสำคัญกับชีวิตประจำวัน เพราะชาวโรมันถือว่าดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ซึ่งเป็นทั้งของขวัญ เป็นดอกไม้สำหรับทำเป็นมาลัยต้อนรับแขก เป็นดอกไม้สำหรับงานเฉลิมฉลองต่างๆ ใช้เป็นส่วนประกอบสำหรับทำขนม ทำไวน์ ส่วนน้ำมันกุหลาบยังใช้ทำเป็นยาได้อีกด้วย

                กุหลาบถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความโรแมนติก ซึ่งมีบางตำนานเล่าว่า ดอกกุหลาบเป็นเสมือนเครื่องหมายแทนการกำเนิดของ เทพธิดาวีนัส ซึ่งเป็นเทพแห่งความงาม และความรัก วีนัสเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อโฟรไดท์ ในตำนานเทพของกรีกได้กล่าวไว้ว่า น้ำตาของเธอหยดลงปะปนกับเลือดของ อคอนิส คนรักของเธอที่ถูกหมูป่าฆ่า เลือดและน้ำตาหยดลงสู่พื้นแล้วกลายเป็นดอกไม้สีแดงเข้มหรือดอกกุหลาบนั่นเอง แต่บางตำนานก็เล่าว่าดอกกุหลาบเกิดจากเลือดของ อโฟรไดท์ เองที่หยดลงสู่พื้น เมื่อเธอแทงตัวเองด้วยหนามแหลม

                บางตำนานกล่าวว่ากุหลาบเกิดจากการชุมนุมของบรรดาทวยเทพ เพื่อประทานชีวิตใหม่ให้กับนางกินรีนางหนึ่ง ซึ่งเทพธิดาแห่งบุปผาชาติ หรือ คลอริส บังเอิญไปพบนางนอนสิ้นชีพอยู่ ในตำนานนี้กล่าวว่า อโฟรไดท์ เป็นเทพผู้ประทานความงามให้ มีเทพอีกสามองค์ประทานความสดใส เสน่ห์ และความน่าอภิรมย์ และมี เซไฟรัส ซึ่งเป็นลมตะวันตกได้ช่วยพัดกลุ่มเมฆ เพื่อเปิดฟ้าให้กับแสงของเทพ อพอลโล หรือแสงอาทิตย์ส่องลงมาเพื่อประทานพรอมตะ จากนั้น ไดโอนีเซียส เทพเจ้าแห่งเหล้าองุ่นก็ประทานน้ำอมฤต และกลิ่นหอม เมื่อสร้างบุปผาชาติดอกใหม่นี้ขึ้นมาได้แล้ว เทพทั้งหลายก็เรียกดอกไม้ซึ่งมีกลิ่นหอมและทรงเสน่ห์นี้ว่า Rosa จากนั้น เทพธิดาคลอริส ก็รวบรวมหยดน้ำค้างมาประดับเป็นมงกุฎ เพื่อมอบให้ดอกไม้นี้เป็นราชินีแห่งบุปผาชาติทั้งมวล จากนั้นก็ประทานดอกกุหลาบให้กับเทพ อีโรส ซึ่งเป็นเทพแห่งความรัก กุหลาบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แล้วเทพ อีโรส ก็ประทานกุหลาบนี้ให้แก่ ฮาร์โพเครติส ซึ่งเป็นเทพแห่งความเงียบ เพื่อที่จะเก็บซ่อนความอ่อนแอของทวยเทพทั้งหลาย ดอกกุหลาบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเงียบและความเร้นลับอีกอย่างหนึ่ง

                 กุหลาบกลายเป็นของขวัญ ของกำนัลสำหรับการแสดงความรัก และมักจะมีผู้เปรียบเทียบความงามของผู้หญิงเป็นเสมือนดอกกุหลาบ และผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์โลกที่ได้รับสมญาว่าเป็นผู้หญิงงามเสมือนดอกกุหลาบคือ พระนางคลีโอพัตรา ซึ่งพระนางยังได้เคยต้อนรับ มาร์ค แอนโทนี คนรักของพระนาง ในห้องซึ่งโรยด้วยดอกกุหลาบหนาถึง 18 นิ้ว หอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นกุหลาบ
ที่มา:www.panmai.com



วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

การขยายพันธ์ดอกกุหลาบ

การขยายพันธุ์

สวนดอกกุหลาบ



ในการขยายพันธุ์กุหลาบเราสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การตัดชำ การติดตา การตอนกิ่ง และการเพาะเมล็ด บางครั้งเพื่อให้ได้ต้นกุหลาบที่มีรากแข็งแรง และให้ผลผลิตสูงเกษตรกรมักนิยมกุหลาบพันธุ์ดีที่ติดตาบนตอกุหลาบป่า
การตอนกิ่ง


วิธีนี้เป็นที่นิยมมาก เพราะทำได้ง่ายและเห็นผลเร็ว กิ่งที่เลือกต้องเป็นกิ่งที่สมบูรณ์ ไม่มีโรคหรือแมลงทำลาย ไม่อ่อนหรือแก่เกินไป คือสีเปลือกเขียวเข้มจนถึงน้ำตาลอ่อน เปลือกล่อนออกจากกิ่งได้ง่าย วิธีตอนที่นิยมทำคือ การตอนแบบหุ้มกิ่ง โดยใช้มีดคมๆ ควั่นเปลือกรอบกิ่ง 2 รอย ห่างกันประมาณ 2.5-3 ซม. ให้รอยควั่นด้านบนอยู่ใต้ตาเล็กน้อย กรีดตามยาวและลอกเอาเปลือกออก แล้วใช้สันมีดขูดเมือก ออกให้หมด จากนั้นนำขุยมะพร้าวที่แช่น้ำจนอิ่มตัวหุ้มตรงรอยควั่น นำถุงพลาสติกมาหุ้มทับอีกที แล้วมัดด้วยเชือกที่หัวท้ายให้แน่น กิ่งตอนจะเริ่มออกรากในเวลา 2-3 สัปดาห์
การติดตา


นิยมติดตาพันธุ์ดีบนต้นตอกุหลาบป่า ได้แก่ Rosa multiflora หรือ R.indical (R. chinensis) ซึ่งมี ความแข็งแรงและทนทาน ก่อนทำการติดตาต้องเตรียมต้นตอและเลือกตาพันธุ์ดีที่จะนำมาติด ควรเลือกต้นกุหลาบป่าที่กำลังเจริญเติบโต เปลือกล่อนจากเนื้อ ตาที่ใช้ควรเป็นตาจากกิ่งที่ดอกเริ่มเหี่ยวประมาณ ตาที่ 3-4 นับจากตาแรกที่อยู่ใกล้ดอกลงมาหรือเลือกจากกิ่งที่สมบูรณ์เต็มที่ โดยเลือกเอาตาที่นูนเด่นชัด วิธีการที่นิยมทำคือ การติดตาแบบตัวที (T-budding) โดยกรีดต้นตอตามทางยาวประมาณ 3-4 ซม. แล้วตัดขวางชิดกับรอยกรีดด้านบน ใช้มีดเผยอเปลือกตามรอยกรีดด้านบนออกทั้งสองข้าง จากนั้นใช้มีดเฉือนตาจากกิ่งพันธุ์ดีที่เตรียมไว้ให้เท่ากับแผลบนต้นตอ นำแผ่นตาสอดลงไปในแผลบนต้นตอ พันด้วยพลาสติกให้แน่น หลังจากติดตา 7-10 วัน ถ้าแผ่นตายังเป็นสีเขียวแสดงว่าการติดตาได้ผล การขยายพันธุ์ด้วยการติดตานี้ทำให้กุหลาบของเรามีดอกได้หลายสีในต้นเดียวกัน
การปักชำกิ่ง


วัสดุปักชำ ได้แก่ ทรายหยาบผสมกับขี้เถ้าแกลบ ในปริมาณเท่าๆ กัน กิ่งที่จะใช้ปักชำควรเป็นกิ่งที่มีดอกเริ่มแย้ม หรือกิ่งที่ดอกบานไปแล้วไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ตัดให้มีความยาว 5-6 นิ้ว มีใบติด 3-5 ใบ ขึ้นไป ตัดแล้วนำไปจุ่มในน้ำก่อนนำไปปักชำ ช่วงเวลาในการตัดกิ่งควรเป็นตอนเช้าหรือตอนเย็น วิธีนี้นิยมใช้ขยายพันธุ์กุหลาบหนู
การเพาะเมล็ด


จะต้องให้เมล็ดผ่านอุณหภูมิต่ำชั่วระยะเวลาหนึ่งจึงจะงอก โดยธรรมชาติของกุหลาบจะติดเมล็ดในอากาศหนาวหรือเขตอบอุ่น เมล็ดจึ่งไม่สามารถงอกได้ทันทีที่อุณหภูมิห้องปกติ เมื่อนำเมล็ดกุหลาบไปเพาะในภาชนะที่ใส่วัสดุเพาะ เช่น ขุยมะพร้าวที่ชื้นคลุมด้วยถุงพลาสติกแล้ว จะต้องนำไปเพาะในตู้เย็นประมาณ 3-4 สัปดาห์ จะมีจำนวนเมล็ดงอกประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ แล้วจึงนำออกมาไว้ข้างนอก เมื่อต้นกล้างอกหมด แล้วจึงย้ายลงกระถางหรือถุงชำ





ที่มา:http://lms.thaicyberu.go.th

พันธ์ของดอกกุหลาบ

กุหลาบที่ปลูกในประเทศไทยปัจจุบันนี้มีอยู่ด้วยกันหลายประเภทซึ่งถ้า แบ่งออกโดยสังเขปจะได้ดังนี้



               
กุหลาบสามารถจำแนกได้หลายแบบ เช่น จำแนกตามลักษณะการเจริญเติบโต ขนาดดอก สีดอก ความสูงต้น และจำแนก ตามลักษณะของดอก เป็นต้น ในที่นี้ได้จำแนกกุหลาบเฉพาะกุหลาบตัดดอกตามลักษณะการใช้ประโยชน์ ทางการค้าในตลาดโลกเป็น 5 ประเภทดังนี้


  • กุหลาบดอกใหญ่ หรือ กุหลาบก้านยาว (large flowered or long stemmed roses) กุหลาบประเภทนี้เป็นกุหลาบไฮบริดที (Hybrid Tea: HT) ที่มีดอกใหญ่ แต่การดูแลรักษายาก ผลผลิตต่ำ (100-150 ดอก/ตร.ม./ปี) และอายุการปักแจกันสั้นกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับกุหลาบ Floribunda มักมีก้านยาวระหว่าง 50-120 เซนติเมตร กุหลาบดอกใหญ่ได้รับความนิยมมากใน สหรัฐอเมริกา โคลัมเบีย เอกวาดอร์ เม็กซิโก ญี่ปุ่น ซิมบับเว โมร๊อกโก ฝรั่งเศส และ อิตาลี พันธุ์กุหลาบดอกใหญ่ที่เป็นที่นิยมในตลาดต่างประเทศได้แก่ พันธุ์ เวก้า (Vega: แดง) , มาดาม เดลบา (Madam Delbard) , วีซ่า (Visa: แดง) , โรเท โรเซ (Rote Rose: แดง) , คารล์ เรด (Carl Red: แดง) , โซเนีย (Sonia: ชมพูส้ม) , เฟิร์สเรด (First Red: แดง) , โพรฟิตา (Prophyta: ปูนแห้ง) , บิอังกา (Bianca: ขาว) , โนเบลส (Noblesse: ชมพูส้ม) และ แกรนด์ กาลา (Grand Gala: แดง) เป็นต้น
  • กุหลาบดอกกลาง หรือ กุหลาบก้านขนาดกลาง (medium flowered or medium stemmed roses) เป็นกุหลาบชนิดใหม่ ซึ่งมีลักษณะระหว่างกุหลาบดอกใหญ่ และเล็ก เป็นกุหลาบ Hybrid Tea ให้ผลผลิตสูง (150-220 ดอก/ตร.ม./ปี) อายุการปักแจกันยาว และทนการขนส่งได้ดี ความยาวก้านระหว่าง 40-60 ซม. แหล่งผลิตที่สำคัญได้แก่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เยอรมนี อิตาลี อิสราเอล ซิมบับเว เคนยา พันธุ์ที่นิยมปลูกได้แก่พันธุ์ ซาช่า (Sacha: แดง) , เมอร์ซิเดส (Mercedes: แดง) , เกเบรียล (Gabrielle: แดงสด) , คิสส์ (Kiss: ชมพู) , โกลเด้นทาม (Goldentime: เหลือง) , ซาฟารี (Safari: ส้ม) และ ซูวีเนีย (Souvenir: ม่วง) เป็นต้น
  • กุหลาบดอกเล็ก หรือ กุหลาบก้านสั้น (small flowered or short stemmed roses) เป็นกุหลาบที่ได้รับความนิยมปลูก และบริโภคกันมากในยุโรป โดยเฉพาะ เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ กุหลาบก้านสั้นนี้เป็นกุหลาบ Floribunda ที่ให้ผลผลิตสูง (220-350 ดอก/ตร.ม./ปี) อายุการปักแจกันยาว และทนต่อการขนส่งดีกว่ากุหลาบดอกใหญ่ มักมีความยาวก้านระหว่าง 30-50 เซนติเมตร แหล่งผลิตกุหลาบดอกเล็กได้แก่ประเทศ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี อิสราเอล และเคนยา พันธุ์ที่นิยมปลูกได้แก่พันธุ์ ฟริสโก (Frisco:เหลือง) , เอสกิโม (Escimo: ขาว) , โมเทรีย (Motrea: แดง) , เซอไพรซ์ (Surprise: ชมพู) , และ แลมบาด้า (Lambada: แสด) เป็นต้น
  • กุหลาบดอกช่อ (spray roses) เป็นกุหลาบชนิดใหม่ ให้ผลผลิตต่ำต่อพื้นที่ (120-160 ดอกต่อตารางเมตรต่อปี) ความยาวก้านระหว่าง 40-70 ซม. มักมี 4-5 ดอกในหนึ่งช่อ และยังมีตลาดจำกัดอยู่ เช่นพันธุ์ เอวีลีน (Evelien: ชมพู) เดียดีม (Diadeem: ชมพู) และ นิกิต้า (Nikita: แดง) เป็นต้น
  • กุหลาบหนู (miniature roses) มีขนาดเล็กหรือแคระโดยธรรมชาติ ความสูงของทรงพุ่มไม่เกิน 1 ฟุตให้ผลผลิตสูง 450-550 ดอก/ตร.ม./ปี มีความยาวก้านดอกระหว่าง 20-30 ซม. ยังมีตลาดจำกัดอยู่ยกเว้นในประเทศญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ และอิตาลี

สายพันธุ์

                   การคัดเลือกพันธุ์กุหลาบในปัจจุบันจะคำนึงถึงประโยชน์ และความคุ้มค่าที่ผู้บริโภคจะได้รับ มากกว่าการที่ดอกสวยสะดุดตาแต่เมื่อซื้อไปก็เหี่ยวทันที ดังนั้นการคัดเลือกพันธุ์กุหลาบในปัจจุบันมักมีข้อพิจารณาดังนี้

  1. มีผลผลิตสูง ปัจจุบันกุหลาบดอกเล็กให้ผลผลิตสูงถึง 300 ดอก/ตร.ม./ปี
  2. อายุการปักแจกันนาน พันธุ์กุหลาบในสมัยทศวรรษที่แล้วจะบานได้เพียง 5-6 วัน ปัจจุบันกุหลาบพันธุ์ใหม่ ๆ สามารถบานได้ทนถึง 16 วัน
  3. กุหลาบที่สามารถดูดน้ำได้ดี
  4. กุหลาบที่ไม่มีหนามหรือหนามน้อยเพื่อความสะดวกในการจัดการ
  5. สี สีแดงยังคงครองตลาดอยู่ รองลงมาคือสีชมพู สีอ่อนเย็นตา และสองสีในดอกเดียวกัน
  6. กลิ่น เป็นที่เสียดายที่กุหลาบกลิ่นหอมมักไม่ทน แต่ก็มีการผสมพันธุ์กุหลาบตัดดอกกลิ่นหอมบ้าง สำหรับตลาดท้องถิ่น
  7. มีความต้านทานโรค และทนความเสียหายจากการจัดการสูง

กุหลาบกับความรัก

กุหลาบกับความรัก

มีหลายคนเคยพูดไว้ว่า ความรักก็เหมือนดอกกุหลาบ
ถึงแม้มันจะสวยงาม แต่มันก็มีหนามแหลมคม
การดูแลความรักก็เป็นเช่นเดียวกันกับการปลูกดอกกุหลาบ
ที่มีเมล็ดซึ่งเกิดจากบุคคล 2 คนที่โคจรมาเจอกัน
และตัดสินใจจะร่วมดูแลต้นกุหลาบต้นหนึ่งร่วมกัน
เมื่อต้นของมันยังเล็ก เราจะคอยดูแลทนุถนอมมันอย่างดี
เฝ้าดูว่าเมื่อไหร่มันจะเติบโตขึ้นจนกระทั่งมีดอกให้เราเชยชม
คนที่มีความรักทุกคนก็คงเป็นเช่นเดียวกัน
ทุกคนก็คงมีความหวัง หวังว่าความรักของคุณจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
การดูแลความสัมพันธ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ
มันก็คงจะไม่แตกต่างกับการรดน้ำให้ต้นกุหลาบของคุณ
และเมื่อต้นกุหลาบของคุณเติบโตขึ้น
มันจะไม่ใช่ต้นกล้าอีกแล้ว มันมีหนามเพิ่มขึ้นมาด้วย
และมันก้อคงเหมือนกับอุปสรรคที่คุณต้องเจอ
เมื่อคุณถูกหนามของมันตำเข้า แน่นอนว่าคุณคงรู้สึกเจ็บไม่ใช่น้อย
เวลานี้แหละ เป็นช่วงเวลาสำคัญของการตัดสินใจ
การตัดสินใจในเรื่องความรัก ไม่สามารถใช้เหตุผลเพียงอย่างเดียวได้
แต่หากใช้อารมณ์เพียงอย่างเดียวก็ใช่ว่าจะถูกเสมอไป
ถ้าคุณใช้แต่อารมณ์ในตอนนั้น -- คุณอาจจะตัดต้นกุหลาบของคุณทิ้ง โดยไม่ได้คำนึงถึงระยะเวลาที่คุณเฝ้าดูแลมันมาเลย
ถ้าคุณใช้เหตุผลตัดสิน --สามารถที่จะคิดได้ว่า ถ้าปล่อยให้มันเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ มันอาจจะทำร้ายคุณมากกว่านี้ และหนามของมันอาจจะไปทำร้ายคนที่อยู่รอบข้างคุณได้อีก
และถ้าหากคุณตัดมันทิ้งไปแล้ว คุณจะรู้สึกอย่างไร????ต้นกุหลาบที่คุณและใครอีกคนหนึ่งเคยช่วยกันดูแล
รดน้ำพรวนดินจนมันเติบโต ถ้าวันหนึ่งมันถูกตัดลงเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าจะต้องรู้สึกเสียใจ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรอีก
ในเมื่อคุณทำลายมันลงไปด้วยมือของคุณเอง เพราะฉะนั้น ถ้าวันนี้คุณพบเมล็ดกุหลาบของคุณแล้ว
ดูแลมันให้ดี
 ให้มันเติบโตขึ้นจนได้ผลิดอกใบให้คุณชื่นชม
เพราะถึงแม้หนามของมันจะทำร้ายคุณบ้าง
แต่ถ้าคุณทั้งคู่ช่วยกันดูแลมันเป็นอย่างดี หนามนั้นก็เป็นได้เพียงแค่ส่วนประกอบหนึ่งของดอกกุหลาบเท่านั้นเอง
ให้ดอกกุหลาบของคุณได้เบ่งบานในหัวใจตลอดไป


ความเชื่อเกี่ยวกับกุหลาบ

มีตำนานทางพระคริสต์ศาสนาระบุไว้ว่า..

            มีตำนานทางพระคริสต์ศาสนาระบุไว้ว่า... แรกเริ่มเมื่อพระเจ้าสร้างโลกและสรรพสิ่งในโลกนั้นกุหลาบยังปราศจากหนาม เช่นเดียวกะพืชทุกชนิดที่ไร้หนามเช่นกัน แต่เมื่อมานุด0.o คู่แรกของโลก \" ไม่เชื่อฟังพระเจ้า \" ด้วยการฝ่าฝืนคำตรัสห้ามกินผลไม้ต้นที่อยุ่กลางสวน ทำให้เกิดบาปขึนในโลก พระเจ้าจึงทรงสาปแช่งว่า \" แผ่นดินจะให้ต้นไม้และพืชที่มีหนามแก่เจ้า \" นับตั้งแต่นั้นมากุหลาบและพืชพรรณอีกหลายร้อยหลายพันชนิดจึงมีหนามแหลมคม
            ตำนานเก่าแก่ของชาวเปอร์เซียก็เขียนไว้ว่า ศาสดาพยากรณ์นามว่า \" โซโรอัสเตอร์ \" แห่งเปอร์เซีย เมื่อครั้งยังเป็นทารกอยุ่นั้น ถุกกษัตริย์นิมรัดแห่งกรุงบาบิโลเนียจับโยนใส่กองไฟ แต่น่าอัศจรรย์ที่กองไฟดับมอดลงและเถ้าถ่านก็กลายเป็นดอกกุหลาบแทน ทารกน้อยจึงนอนหลับสบายท่ามกลางกลิ่นหอมจรุงใจของดอกกุหลาบนานาพันธุ์ ซึ่งชาวเปอร์เซียโบราณได้วาดภาพให้ดอกกุหลาบที่รองรับทารกร้อยเป็นเหมือนพรมอันอ่อนนุ่ม ด้วยเหตุดังกล่าว พรมของเปอร์เซียจึงมักมีรูปดอกกุหลาบปักเป็นลวดลายอยู่ด้วย
           ชาวเปอร์เซียอีกนั่นแหละได้ให้ข้อคิดว่า ถ้านำเอาเครื่องเทศสมุนไพรหายากนานาชนิดมาวางปะปนกับดอกกุหลาบ แล้วให้นกไนติงเกลบินเข้าหา มันจะบินเข้าหาดอกกุหลาบเท่านั้น นกไนติงเกลจึงมีปรากฏปักบนพรมเปอร์เซียด้วย
           ทางด้านศาสนาฮินดูมีตำนานเกี่ยว กกุหลาบว่า เมื่อครั้งพระพรหมทรงสร้างโลก พระองค์มีพระประสงค์จะมอบสิ่งที่สวยงามประเสริฐสุดแก่แม่ลักษมี ปรากฏว่าในสิ่งสวยงามประเสริฐนั้น พระพรหมทรงเลือกดอกกุหลาบมอบให้แด่พระมเหสีของพระองค์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าดอกกุหลาบเป็นของสูง
           ชนเผ่าอินเดียนแดงในอเมริกามีความเชื่อเกียวกะกุหลาบว่า มีนักรบคนหนึ่งชื่อ \" ทะสูเวนาฮี \" ได้กลับจาการล่าสัตว์มายังที่พักของตน แล้วพบว่าสาวน้อยคนรักที่ชื่อ \" โดวันซา \" ได้เสียชีวิตแล้วเพราะถูกนักรบจากเผ่าอื่นบุกโจมตี และสังหารเธอ ปรากฏว่าสาวน้อยคนรักได้กลายเป็นดอกกุหลาบ ทะสูเวนาฮีเสียอกเสียอกใจยิ่งนัก จึงอธิษฐานขอให้ตัวเองกลายเป็นต้นกุหลาบที่มีหนามแหลมคม เพื่อมิให้ใครผู้ใดเข้าแตะต้องดอกกุหลาบได้สะดวก
           สมัยจักรพรรดิเนโรครองอาณาจักรโรมัน (ทศวรรษที่ 37-68 ก่อน คริสต์กาล ) พระองค์ทรงใช้เงินจำนวนมหาศาลสั่งซื้อดอกกุหลาบมาประดับประดางานเลี้ยงที่อ่าวบาอิแอ เล่ากันว่าเนโรทรงโปรดปรานดอกกุหลาบยิ่งกว่าดอกไม้ชนิดอื่นๆ ขนาดใช้พระเขนยที่ยัดไส้ด้วยกลีบกุหลาบไว้ในห้องบรรทม แม้แต่งานเลี้ยงที่อ่าวบาอิแอก็ทรงโปรดให้โปรยดอกกุหลาบจากเพดานสู่พื้นไม่ขาดสาย
           ครั้นถึงสมัยจักรพรรดิเอลิกาบาลุส ก็ทรงโปรดดอกกุหลาบเช่นกัน ทรงใช้วิธีโปรยกลีบดอกกุหลาบจากเพดานสู่พื้นงานเลี้ยงสำคัญๆ ทั้งนี้เพราะชาวโรมันโบราณเชื่อวกันว่าดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์แห่งความลึกลับอาถรรพ์ ถ้าชาวโรมันต้องการประชุมลับเขาจะวางกุหลาบไว้หน้าอาคารสถานที่ประชุมนั้นๆ ซึ่งเป็นที่มาของคำละตินที่ว่า Sub rosa ก็คือ Under the rosa อันหมายถึง \" ลับสุดยอด \" นั่นเอง
           ในอดีตอันไกลโพ้น มีเรื่องเล่าว่า \" นครโรดส์ \"( RHODES ) ที่ยิ่งใหญ่สวยงามของกรีก ได้ชื่อมาจากคำว่า RHODEN แปลว่าดอกกุหลาบ สัญลักาณ์ของนครโรดส์คือดอกกุหลาบซึ่งตั้งอยุ่ริมฝั่งทะเลแห่งนี้ปลุกดอกกุหลาบไว้มากมายจนกลิ่นฟุ้งหอมกระจายฟุ้งไปไกลนับพันๆเมตร กระทั่งชาวเรือที่อยุ่ห่างออกไปเป็นกิโมตรเศษๆยังได้กลิ่น นอกจากนั้น เมื่อนักโบราณคดีขุดซากนครแห่งนี้ ก็พบเหรียญที่มีรุปดอกกุหลาบอยู่แทบทุกเหรียญ
           กุหลาบนั้นถือกันมาแต่โบราณกาลแล้วว่าเป็น \" ราชินีแห่งดอกไม้ \" ในภาษาอังกฤษคำว่า ROSE ดอกกุหลาบมาจากการสลับอักษรพระนามของเทพเอรอส EROS โอรสของเทพวีนัส หรือ คิวปิด หรือ กามเทพนั่นเอง เมื่อเทพเอรอสแย้มสรวลก็เกิดเป็ยดอกกุหลาบขึ้น
           กุหลาบเป็นไม้ดิกดึกดำบรรพ์มที่มนุษย์รุ้จัก และมีนิทาน , นิยาย ,ตำนาน,ความเชื่อถือเกี่ยวกะกุหลาบมากมาย แม้ว่าจะเป็นไม้หนามแหลมคมรอบลำต้น แต่ก็เป็นไม้ปลุกประดับอาคารบ้านเรือนที่นิยมกันทั่วโลก โดยเฉพาะดอกของมันนอกจากสวยงามแล้วยังมีกลิ่นหอมจรุงใจ คงไม่มีใครปฏิเสธที่จะรับดอกกุหลาบไว้ในมือหรอกจริงมะ ^o^

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ประวัติดอกกุหลาบ 
กุหลาบแดง
เคยได้ยินคำเปรียบเปรยไหมที่ว่า ผู้หญิงสวยแต่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมก็เปรียบได้ดัง "ดอกกุหลาบ" เพราะดอกกุหลาบนั้น แม้จะมีรูปร่างภายนอกที่สวยงามรวมถึงกลิ่นที่หอมชวนดม แต่มันก็มีหนามแหลม หากไม่ระวังอาจโดนบาดได้ง่าย ๆ

กุหลาบนั้นมีชื่อสามัญว่า "Rose" ชื่อทางพฤกษาศาสตร์ว่า "Rosa hybrids" และมีชื่อวงศ์ว่า "Rosaceae" ขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่ง ลักษณะของกุหลาบนั้นมีทั้งไม้พุ่มและไม้เลื้อย ลำต้นและกิ่งจะมีหนาม ส่วนดอกของกุหลาบจะมีทั้งดอกเดี่ยวและเป็นช่อ กลีบดอกมีลักษณะใหญ่ มีไม่ต่ำกว่า 5 กลีบ กุหลาบนั้นมีกลิ่นหอมชวนดม และมีหลายสี เช่น แดง ขาว เหลือง ชมพู ฯลฯ อีกทั้งยังมีหลายชนิดด้วย

ซึ่งคำว่ากุหลาบนั้นมาจากคำว่า "คุล" ที่ในภาษาเปอร์เซียแปลว่า "สีแดง ดอกไม้ หรือดอกกุหลาบ" โดยในภาษาฮินดีก็มีคำว่า "คุล" แปลว่า "ดอกไม้" และคำว่า "คุลาพ" ก็หมายถึงกุหลาบอย่างที่ไทยเราเรียกกัน แต่ออกเสียงเป็น "กุหลาบ" ส่วนคำว่า "Rose" ในภาษาอังกฤษนั้นมาจากคำว่า "Rhodon" ที่แปลว่ากุหลาบในภาษากรีก


โดยกุหลาบเป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกมาแต่โบราณ ว่ากันว่ากุหลาบเกิดขึ้นเมื่อ 70 ล้านปีมาแล้ว และเคยมีการค้นพบฟอสซิลของกุหลาบที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยแต่ก่อนกุหลาบนั้นเป็นกุหลาบป่าและมีรูปร่างไม่เหมือนในทุกวันนี้ แต่เนื่องจากมนุษย์ได้นำเอากุหลาบป่ามาปลูกและผสมพันธุ์จนขยายเป็นพันธุ์ต่าง ๆ มากมาย

ตามประวัติศาสตร์เล่าว่ากุหลาบป่าถูกนำมาปลูกไว้ในพระราชวังของจักรพรรดิ์ ในสมัยราชวงศ์ฮั่นราว 5,000 ปีมาแล้ว ขณะที่อียิปต์เองก็ปลูกกุหลาบเป็นไม้ดอกส่งไปขายให้แก่ชาวโรมัน เพราะชาวโรมันเป็นชาติที่รักดอกกุหลาบมาก แม้ว่าจะสั่งซื้อจากประเทศอียิปต์แล้วก็ตาม แต่ก็ยังลงทุนสร้างสถานที่ขนาดใหญ่สำหรับปลูกดอกกุหลาบอีกด้วย เพราะสำหรับชาวโรมันแล้วดอกกุหลาบนั้นมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวัน อีกทั้งชาวโรมันถือว่าดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของความรัก เป็นทั้งของขวัญ และเป็นดอกไม้สำหรับทำมาลัยต้อนรับแขก รวมถึงเป็นดอกไม้สำหรับงานฉลองต่าง ๆ แถมยังเป็นส่วนประกอบสำหรับทำขนม ทำไวน์ และยาได้อีกด้วย

และเมื่อเอ่ยถึงดอกกุหลาบแล้ว หลาย ๆ คนก็คงจะนึกถึงเรื่องความรัก เพราะกุหลาบถือเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความโรแมนติก โดยมีบางตำนานเล่าว่า ดอกกุหลาบเป็นเสมือนเครื่องหมายแทนการกำเนิดของ เทพธิดาวีนัส ซึ่งเป็นเทพแห่งความงามและความรัก วีนัสเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อโฟรไดท์ ในตำนานเทพของกรีกได้กล่าวไว้ว่า น้ำตาของเธอหยดลงปะปนกับเลือดของ อคอนิส คนรักของเธอที่ถูกหมูป่าฆ่า เลือดและน้ำตาหยดลงสู่พื้นแล้วกลายเป็นดอกไม้สีแดงเข้มหรือดอกกุหลาบนั่นเอง แต่บางตำนานก็เล่าว่าดอกกุหลาบเกิดจากเลือดของ อโฟรไดท์ เองที่หยดลงสู่พื้น เมื่อเธอแทงตัวเองด้วยหนามแหลม

แม้จะไม่มีการบันทึกอย่างชัดเจนว่าดอกกุหลาบนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องกับบ้านเราตอนไหน แต่จากบันทึกของ ลา ลูแบร์ ราชทูตฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้บันทึกไว้ว่าเห็นกุหลาบที่กรุงศรีอยุธยา และในกาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศกสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ ก็ได้มีการกล่าวถึงกุหลาบเอาไว้ และยังมีตำนานดอกกุหลาบของไทยที่เป็นบทละครพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 6 เรื่อง มัทนะพาธา ในเรื่องเล่าถึงเทพธิดาองค์หนึ่งชื่อ "มัทนา" ซึ่งได้มีเทพบุตรองค์หนึ่งชื่อ "สุเทษณะ" ซึ่งพระองค์ทรงหลงรักเทพธิดา "มัทนา" มาก แต่นางไม่มีใจรักตอบ จึงถูกสาปให้ไปเกิดเป็นดอกกุหลาบ จึงกลายเป็นตำนานดอกกุหลาบแต่นั้นมา

กุหลาบสื่อความหมาย
กุหลาบสื่อความหมาย
 
กุหลาบสีแดง
 

"ดอกกุหลาบสีแดง" ไม่ว่าจะเป็นดอกกุหลาบ สีแดงอ่อน หรือสีแดงสด บ่งบอกถึงการตกหลุมรักหรือแอบปลื้มใครซักคน เป็นสื่อแทนใจเพื่อจะบอกให้รู้ว่ามีคนกำลัง แอบปลื้มอยู่ ส่วนดอกกุหลาบสีแดงเข้ม ถ้ามีใครให้ดอกกุหลาบสีแดง รู้ไว้เลย นะว่าเค้าคนนั้น มีความรักที่สุดแสน จะลึกซึ้ง มั่นคง และแน่นนปึก เรียกได้ว่าความรักนั้น ไม่มีวันจืดจางไป จากหัวใจ
กุหลาบสีขาว
เป็นสีแห่งความรักที่ใสสะอาด บริสุทธิ์น่าทนุถนอมโดยไม่คิด เลยว่าความรักที่มอบให้ไปนั้น จะได้ความรักตอบกลับมาหรือเปล่า

กุหลาบสีชมพู
เป็นความโรแมนติกที่แสดงถึงความรักที่หวานซึ้งที่ผู้ให้มีต่อผู้รับ แต่ก็อย่าเพิ่งดีใจ เพราะว่ามันไม่ได้เป็นความรักที่ลึกซึ้ง แค่เป็นเพียงรักที่ฉาบฉวยต้องการเปลี่ยนแปลงเพื่อแสวงหาสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดเท่านั้นเอง
กุหลาบสีส้ม
สื่อให้เห็นถึงความสดใส ความเป็นตัวของตัวเอง ของผู้รับ เมื่ออยู่ใกล้แล้วทำให้รู้สึกอบอุ่น และยัง บ่งบอกความในใจถึงความรักและสิ่งที่ผ่านมาด้วย
กุหลาบสีเหลือง
เป็นตัวแทนแห่งมิตรภาพ และยังสื่อถึงความห่วงใยของผู้ให้ด้วย หลายคนเชื่อว่าเป็นดอกไม้ที่ใช้สำหรับเยี่ยมคนป่วย แต่จริงๆแล้วก็สามารถให้กับเพื่อนๆ เนื่องในโอกาสพิเศษได้เช่นกัน
กุหลาบสีฟ้า
เชื่อว่าเป็นดอกไม้ แห่งความอดทน แข็งแกร่ง ดอกไม้แห่งความฝันที่สวยงาม และมั่นคงตลอดกาล
กุหลาบสีม่วง
บางคนคงคิดว่ามันเป็นดอกกุหลาบที่สื่อถึงความเศร้า นั่นก็เป็นอีกความหมายนึง แต่ถ้ามองในแง่ของความสุข กุหลาบสีม่วงยังสื่อให้เห็นถึงความสำเร็จในชีวิต การงานได้อีกด้วย
กุหลาบสีดำ
ความหมายของกุหลาบดำ แต่อาจจะลืมไปแล้ว จนมาถึงวันนี้ได้รื้อฟื้นความหมายอีกครั้ง หลายคนคงให้สีดำแทนความเสียใจ โศกเศร้า แต่ความหมายของกุหลาบสีดำว่าแท้จริงแล้ว ความหมายที่ลึกล้ำ เจ้ากุหลาบดำ นั่นคือ..นิรันดร์ ดังนั้นดอกกุหลาบดำที่หมายถึงรักนิรันดร์ และมันไม่เคยมีจริง